สวัสดีครับเพื่อนๆ
วันนี้ผมว่างๆเพราะช่วงนี้ฝนตก
งานไม่ค่อยเยอะสักเท่าไร
เป็นปกติของผมอีกเช่นกันครับ
เมื่อมีเวลาว่างๆ ผมก็จะค้นหาข้อมูลใหม่ๆ
เกี่ยวกับปลาคาร์ฟมาเล่าให้เพื่อนฟัง(อ่าน)กัน
วันนี้ขอนำเสนอบรีดเดอร์ที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง
ซึ่งนั่นก็คือ Konishi koi Farm นั้นเองครับ
Konishi ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัย ไทโช ประมาณ ค.ศ.1910
โดยมี Mr.Kakuichi Konishi เป็นผู้ก่อตั้ง
และมี Mr.Toshikutsu Konishi เป็นผู้สืบทอดรุ่นที่สอง
จนมาถึงปัจจุบัน Mr.Joji Konishi รุ่นที่สาม
และเป็นประธานคนปัจจุบัน วัย 39 ปี
Mr.makoto Konishi เป็นว่าที่ผู้สืบทอด
Konishi รุ่นที่ 4 จบการจัดการ และการตลาด
จากมหาวิทยาลัยเอกชนในฮิโรชิม่า
หลังจากจบการศึกษาก็กลับมาช่วยงานที่ฟาร์ม
จนถึงปัจจุบัน
นี่คือกรีนเฮาส์ของโคนิชิ
ผมอยาให้พวกเราสังเกตหลังคาของที่นี่กันสักหน่อยนะครับ
นอกจากใช้แผ่นใส่มุงหลังคาแล้ว
ยังมีม่านสำหรับบังแดดในบางช่วงด้วย น่าสนใจดีครับ
ภาพมุมไกลของโคนิชิ
บ่อดินบางส่วนของโคนิชิ
ช็อพของโคนิชิ
ผมคิดว่าที่นี่ครบกระบวนการในการจัดจำหน่ายเลย
กล่าวคือ เป็นผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายเอง
สินค้าของที่นี่ก็มีตั้งแต่ปลาคาร์ฟ อาหาร และอุปกรณ์สำหรับปลา
แบบนี้น่าชื่นชมวิธีในการบริหารจัดการของที่นี่ครับ
ในช่วงรุ่นที่ 1-3 โคนิชิเป็นที่รู้จักในหมู่นักเลี้ยง
เรื่องปลาหลัก(โคฮากุ โชว่า ซันเก้)
ในปัจจุบันมีบรีดเดอร์จำนวนมากเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้
โดยเน้นผลิตปลาหลัก จึงทำให้ Mr.Joji Konishi
ได้มองเห็นช่องว่างทางการตลาด
คือกลุ่มปลาวาไรตี้ และความคิดของเข้าก็สำเร็จ
เพราะในปัจจุบันนี้ไม่มีนักเลี้ยงท่านใดที่ไม่รู้จัก คาราชิกอย
เจ้าตำหรับของคาราชิกอยก็คือ โคนิชิ แห่งนี้นั่นเอง
จุดเด่นของคาราชิก็คืออัตราการเติบโตที่รวดเร็ว
สีที่แปลกตา คือ มีสีเหลืองมัสตาร์ด หรือเหลืองมะม่วง
นิสัยของคาราชิที่เชื่อง ทำให้ใครหลายคนหลงรักคาราชิ
เพื่อนๆลองดูพัฒนาการของคาราชิกอยตัวนี้สิครับ
ภาพแรกมันมีอายุ 3 ปี มีขนาดลำตัว 69 cm
ภาพที่สองปลามีอายุสี่ปี มีขนาดลำตัว 78 cm
ภาพที่สาม ปลาอายุห้าปี มีขนาดลำตัว 90 cm
จากอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่องกัน
ทำให้คาราชิได้รางวัลจัมโบ้ B จากงานประกวดมากมาย
เพื่อนๆบางท่านอาจสงสัยว่ารางวัลจัมโบ้ B คืออะไร
รางวัลนี้มีให้สำหรับปลาที่ไม่ใช่ปลาหลัก
ที่มีขนาดใหญ่และสวยที่สุดในการประกวด
รางวัลจัมโบ้บี นี่เองที่ช่วยสร้างชื่อ
จนกลายเป็นแบร์นให้กับโคนิชิในรุ่นที่ 3
หลายท่านคงสงสัยว่า คาราชิ
เกิดจากการเข้าคู่ของปลาวาไรตี้อะไรใช่ไหมหละครับ
ตอบได้เลยสั้นๆว่าไม่รู้เพราะตรงจุดนี้เป็นความลับของโคนิชิ
แต่เราคงเดาได้ว่าต้องมีสายเลือดคิกอย(ปลาสีเหลือง)
ผสมอยู่ด้วยแน่นอน
โคนิชิไม่หยุดอยู่เพียง คาราชิ
ในปัจจุบันนี้มีนิวโปรดักส์จากโคนิชิ
นั่นก็คือ Nanashigoi หน้าตาของมัน
เป็นแบบปลาตัวต่อไปนี้นี่แหละครับ
ตรงนี้พวกเราคงพอเดาได้ว่าเจ้านานาชิกอย
เกิดจากคาราชิ ผสมกับ อาซากิแน่ๆ
ใครไม่รู้จัก อาซากิ ดูภาพข้างล่างนี้นะครับ
อาซากิเป็นปลาสายเก่าแก่
เจ้าพวกนี้มีลักษณะที่แปลกคือ
มีหลังสีเงิน แถบข้างตัวมีสีแดง
เมื่อเราเอาอาซากิมาผสมกับคาราชิ
ทำให้เราได้ปลาชนิดใหม่ขึ้นมา
ผมเอาภาพเจ้าคาราชิมาให้ดูอีกครั้ง
นานาชิกอย เป็นปลาที่มีอัตราการเติบโตที่ดี
เหมือนคาราชิ แต่มีสีและลวดลายที่แปลกใหม่
เหมือนอาซากิสีเหลือง
แต่พิเศษตรงที่เกล็ดสีเหลืองสวยงามแปลกตา
ผมขอนำนานาชิกอยมาให้เพื่อนๆดู
เป็นตัวอย่างพอสังเขบสัก 3 ตัว
นานาชิกอย อายุสามปี มีขนาด 72 cm
ดูใกล้ๆ
ตัวที่สอง อายุสามปีขนาด 75 cm
ดูใกล้ๆ
ตัวที่สาม ตัวนี้เหมือนอาซากิไหมครับ
อายุสามปี ขนาด 78 cm
ดูใกล้ๆ เราเห็นเกล็ดสีเงินเหมือนอาซากิไหมครับ
ผมคิดว่านี่คือการสร้างความแตกต่าง
สำหรับวันนี้ผมของจบบทความเพียงเท่านี้ครับ
ดูใกล้ๆ เราเห็นเกล็ดสีเงินเหมือนอาซากิไหมครับ
ผมคิดว่านี่คือการสร้างความแตกต่าง
ของโคนิชิ ที่มองเห็นช่องว่างทางการตลาด
เหมือนครั้งหนึ่งที่โอโมซาโกะ มุ่งเน้นพัฒนาชิโร่
จนได้การยอมรับให้โอโมซาโกะเป็นแบร์นของของชิโร่
และอิซูมิยะที่มุ่งเน้นพัฒนาโอกอน
ทั้งหมดนี้ขอให้พวกเราติดตามดู
ผลผลิตที่น่าสนใจจาก โคนิชิรุ่นต่อไปว่าจะเป็นเช่นไร
วันนี้ผมคิดว่าพวกเราอาจลองมองหา
Nanashigoi มาเลี้ยงสักตัวนะครับ
สำหรับวันนี้ผมของจบบทความเพียงเท่านี้ครับ
สวัสดีครับ
